วันที่: 2018-01-02 11:02:28.0
การสร้างบ้าน โดยส่วนใหญ่ทุกคนจะคิดสร้างแบบให้ทันสมัย ดูดี เป็นต้น แต่ที่จริงแล้วสิ่งทีสำคัญที่สุดคือ ประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ในปัจจุบันนี้มีการรับสร้างบ้านเกิดขึ้นมากมายเห็นได้จากใน Facebook เว็บไซต์ เป็นต้น มีหลายรูปแบบ ดังนี้
1. รับสร้างบ้านพร้อมออกแบบ คือ เมื่อคุณต้องการสร้างบ้าน หรือที่เรียกว่า Turn Key บริษัทเหล่านี้จะโฆษณาว่า ทุกอย่างจยในที่เดียวด้วยทีมงานมืออาชีพ เป็นต้น ในความรู้สึกของผู้ต้องการสร้างบ้านดีมาก ไม่ต้องจัดหาสิ่งใดใดเพียงคุยรายละเอียดและแบบเสร็จสามารถสร้างได้เลย ในความเป็นจริงแล้วทุกขั้นตอนอยู่ที่บริษัททั้งหมด ทำให้เราไม่สามารถจะตรวจสอบได้อย่างละเอียด เพราะตั้งแต่คนงานไปถึงผู้ควบคุมงานเป็นคนของบริษัททั้งสิ้นด้วยระบบงานที่เอื้อประโยชน์ให้กับทางบริษัทอาจจะเกิดปัญหาระหว่างดำเนินการก่อสร้างได้ เช่น เมื่อคุณค้องการแก้ไขแบบ หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆที่ผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้ว แล้วอีกอย่างที่เกิดขึ้นมากคือ เมื่อมีการดำเนินการผิดพลาดในขั้นตอนที่แล้ว ผู้ทำงานในขั้นตอนต่อไปจะแก้ไขให้ผ่านโดยไม่แจ้งต่อเจ้าของบ้าน เมื่อผ่านขั้นตอนดังกล่าวแล้วเจ้าของบ้านจะไม่รู้ กรณีเป็นการแก้ไขที่ถูกต้องจะไม่เกิดปัญหาในภายหลัง แต่ถ้าแก้ไขแบบไม่ถูกต้องอาจจะเกิดปัญหาในภายหลัง นอกจากนี้สิ่งที่ดีสำหรับผู้ที่จะสร้างบ้านคือ ราคาค่าก่อสร้างที่ไม่บานปลายในเบื้องต้น กรณีทุกอย่างเป็นตามแบบแต่ถ้ามีการเพิ่มเติมอาจจะบานปลายมากกว่าที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก
2. รับออกแบบอย่างเดียว คือ รับออกแบบตามความต้องการผู้ต้องการสร้างบ้านอย่างเดียว ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะมีทีมงานที่เข้าใจในความต้องการของผู้ต้องการสร้างบ้านและสามารถทำออกมาให้เสมือนจริงได้ ซึ่งในระยะหลังได้รับความนิยมมากขึ้น สิ่งที่หลายคนพูดถึงสำหรับกรใช้บริษัทออกแบบ คือ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะออกแบบพร้อมค่าประมาณการในการก่อสร้างซึ่ง ค่าใช้จ่ายที่ได้กล่าวมานั้นจะเป็น 4-8% ของค่าประมาณการก่อสร้าง แต่บริษัทเหล่านี้จะเข้ามาดูแลตั้งแต่การทำรากฐานถึงวันส่งมอบงานและยังเป็นผู้ที่จะพูดคุยกับผู้รับเหมาก่อสร้างเมื่อมีการสร้างผิดจากแบบที่ได้ออกไว้
3. รับสร้างอย่างเดียว คือ มีทั้งแบบรูปบริษัทและบุคคลทั่วไป ซึ่งในรูปบริษัทนั้นจะมีการโฆษณา ออกบูทตามงานต่างๆ หรือบางครั้งได้รับการแนะนำปากต่อปาก ในส่วนของบุคคลทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นการแนะนำแบบปากต่อปาก แต่ในปัจจุบันหาได้จาก Facebook ราคาทุกคนทราบดีว่าในรูปบริษัทจะสูงกว่าบุคคลธรรมดา และความปลอดภัยในการรับงานกล่าวคือ การทิ้งงานของผู้รับเหมาในรูปบริษัทจะติดตามได้มากกว่า
จากที่ได้แนะนำในเบื้องต้นนั้น จะเห็นได้ว่า การสร้างบ้านแบบที่หนึ่งสะดวก งบประมาณควบคุมได้ในเบื้องต้น แต่มีความเสี่ยงตามที่ได้่กล่าวมา สำหรับแบบที่สองและสามนั้นต้องใช้บริการร่วมกันทำให้งบประมาณจะสูงกว่าแต่ได้รับความเสี่ยงน้อยลง สิ่งที่ต้องรู้ก่อนการสร้างบ้านคือ
- ต้องทราบความต้องการในการสอยพื้นที่ของตัวบ้าน โดยไม่ต้องคำนึงถึงขนาดที่ดิน เนื่องจากการออกแบบนั้นเป็นหน้าที่ของบริษัทรับสร้างบ้านหรือบริษัทออกแบบ ที่สำคัญคือต้องบอกให้ครบถ้วนในส่วนที่สำคัญและค่อยปรึกษาในรายละเอียดปลีกย่อยภายหลัง
- ต้องทราบกฎหมายเกี่ยวกับระยะร่นของการก่อสร้างที่เราต้องการสร้าง
- ให้พึงทราบไว้เสมอว่า แบบก่อสร้างที่เป็นกระดาษจะไม่เหมือนการก่อสร้างจริงเสมอ ดังนั้น ก่อนทำสัญญาก่อสร้างควรจะให้ทำรูป 3D หรือโมเดลตัวจริง และที่สำคัญคือ ก่อนก่ออิฐ ควรสำรวจพื้นที่อีกครั้ง
- ในสัญญาควรมี รายการและราคาวัสดุ (BOQ) งวดงานที่ชัดเจน ระยะเวลาการก่อสร้าง การรับประกัน การปรับเมื่องานเกินเวลา สำหรับรายละเอียดอย่างอื่นให้ศึกษาจากตัวอย่างสัญญาเดิมของผู้ที่จะรับสร้างบ้าน ซึ่งสามารถขอดูก่อนทำการเซ้นสัญญาสร้างได้
- ก่อนการดำเนินการก่อสร้าง ควรเรียกพบพนักงานทุกส่วนที่เจ้าของบ้านจะสามารถพูดเคุยได้ เช่น ผู้ควบคุมงาน ผู้ออกแบบ ที่ปรึกษาหน้างาน เป็นต้น
- ในระหว่างการก่อสร้างควรเข้าไปตรวจดูเป็นประจำ โดยไม่เข้าตรงกันทุกครั้ง เช่น วันจันทร์ 10โมงเช้า เป็นต้น และเมื่อมีข้อสงสัยควรสอบถามกับผู้ควบคุมงานทันที
- ในระหว่างการ่อสร้าง ต้องมีการประชุมงานความคืบหน้าและข้อผิดพลาด รวมทั้งรายละเอียดอื่นๆที่เกิดขึ้นที่หน้างาน อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
- ในการรับงวดงาน กรณีทำงานไม่เรียบร้อยตามรายละเอียดงวดงานส่วนใดส่วนหนึ่ง ให้ถือว่างวดงานนั้นยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่ชำระเงินงวดงานนั้น แม้ว่างานในส่วนงวดต่อไปจะเริ่มแล้วก็ตาม
- การตรวจรับงานทั้งหมด ควรตรวจรับอย่างละเอียด กรณีขนาดใหญ่ควรจ้างบริษัทตรวจรับงานจะดีกว่าแล้วเจ้าของบ้านเป็นตัดสินใจตามความเหมาะสม กรณีมีการแก้ไขให้ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจนพร้อมสอบถามแนวทางแก้ไขในทันที หรือกรณีหน้างานตอบการแก้ไขไม่ได้ ควรจะระบุในเอกสารตรวจรับว่าจะไม่ได้รับทราบแนวทางแก้ไข
- เมื่อได้ใช้สิ่งปลูกสร้างไประยะหนึ่ง ความเสียหายจะเกิดขึ้นในช่วงแรก อย่าแก้ไขในทันที ให้ความเสียหายนั้นถึงที่สุดก่อนค่อยแก้ไข เช่น ผนังแตกร้าวให้ครบหนึ่งหรือสองปีตามที่ระบุในสัญญา ถ้าความเสียหายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับโครงสร้างหลักโดยตรง ต้องรีบแจ้งบริษัทหรือผู้รับเหมาให้รับทราบโดยด่วน เช่น มีรอยแตกร้าวที่ คาน เสา เป็นต้น
ตามที่ได้นำเสนอข้างต้น ให้ผู้ที่จะเป็นเจ้าของบ้านทุกท่านใช้ความละเอียดละออในการเลือกบริษัทหรือผู้รับเหมาในการสร้างบ้าน ควรจะขอดูผลงานในขั้นตอนต่างๆ เช่น การทำรากฐาน การก่อ การฉาบ งานภายใน ตลอดจนการเก็บงานในช่วงท้ายๆของการก่อสร้าง และที่สำคัญคือ งานก่อสร้างที่ทำความสะอาดแล้วเหลือแต่ส่งมอบงานเท่านั้น เนื่งอจากการทำความสะอาดนั้นาำคัญมากในการรับงานทุกครั้ง
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านได้บ้านที่ ตรงใจในทุกรายละเอียด และพบกับ บทความครั้งต่อไปครับ
|
|
|